สวัสดีค่ะ ทุกคน เมื่อวานเบลล์ก็ได้เป็นเจ้าสาวสดๆ ร้อนๆ เรียกได้ว่ามีทุกอารมณ์ภายในเวลาไม่กี่วัน ทั้งหงุดหงิด ทั้งแฮปปี้ ทั้งโหมดเศร้า อะไรบ้างที่เบลล์ได้เจอ และอะไรบ้างที่เจ้าสาวทุกคนต้องเตรียมตัวก่อนถึงวันแต่งงานและในวันแต่งงาน วันนี้เบลล์ขอมาแบ่งปันในฐานะเจ้าสาวโดยเป็นผู้จัดเตรียมงานด้วยตัวเองทั้งหมด เนื่องจากแฟนเป็นคนญี่ปุ่นจะไม่ค่อยเข้าใจวัฒนธรรมไทยมากนัก เบลล์จึงต้องเป็นคนดูแลเรื่องนี้เองค่ะ เบลล์หวังว่ารีวิวนี้จะมีประโยชน์ต่อใครหลายๆ คนในอนาคตค่ะ
ลำดับการจัดเตรียมงานแต่งงานของเบลล์ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ
1. หาฤกษ์วันแต่งงาน
2. ตัดสินใจว่าจะจัดลำดับงานอย่างไร จำนวนแขกเท่าไหร่ จะจัดงานเช้าอย่างเดียวหรือจะมีงานเลี้ยงตอนเย็นต่อ >> เบลล์เลือกที่จะจัดงานหมั้นเช้าและเลี้ยงตอนบ่ายต่อเลย ในใจคิดว่า เหนื่อยทีเดียวจบ และจะประหยัดงบกว่า โดยเบลล์ตั้งใจจะจัดงานเล็กๆ แขกสักไม่เกิน 80 คน เน้นหมู่ญาติพี่น้องและคนสนิทเป็นหลัก
3 จองสถานที่ วางเงินมัดจำ
เมื่อเราหาฤกษ์ได้แล้ว (10 พย ) ให้รีบหาโรงแรมในสไตล์ที่ต้องการจัดงานทันทีให้เร็วที่สุดค่ะ ของเบลล์เบลล์ใช้เวลาหาตั้งแต่ช่วงต้นปี เพราะทรางมาว่าช่วงพฤศจิกายนเป็นเดือนที่ฮิตมากๆ ในการจัดงานแต่งงาน ก็ได้สถานที่เป็น บ้านก้ามปู เพราะมองหางานแบบต้นไม้ๆ สวนๆ ในราคาที่ไม่แพงจนเกินไปและเป็นสถานที่ที่ญาติๆ ผู้ใหญ่จะเดินทางมาสะดวก พอแวะเข้าไปดูสถานที่แล้ว ก็วางมัดจำทันทีค่ะ ไม่รอช้า
4 .เช็ค Package ที่จองสถานที่จัดงานให้ดี
– ดูว่าทางสถานที่เค้าเตรียมอะไรให้เราบ้าง และอะไรที่เราต้องหาเอง มีห้องแต่งตัวมั้ย มี Backdrop ดอกไม้ให้หรือไม่ มีคนดำเนินงาน พิธีกรมั้ย รวมถึงงานพิธีไทยทางสถานที่จะจัดเตรียมอะไรให้บ้าง ?? อันนี้เป็นเรื่องสำคัญมากๆ ที่ต้องเช็คลิสต์ก่อน ตอนแรกเบลล์คิดว่าจะจ้างคนจัดงานเพราะมันดูเยอะ มั่วไปหมด แต่พอตั้งสติได้ มานั่งคำนวณหลายๆ อย่างแล้ว คิดว่าตัวเองทำเองได้หมด เรามีเวลาเป็นปี ก็เตรียมตั้งแต่เนิ่นๆ จัดเองได้แน่นอน ไม่ต้องใช้ Organizer มาช่วยดูแลก็ได้ค่ะ
5 . THEME งานแต่ง
– คิด Theme งานแต่ง สีธีม & ธีมงาน Backdrop ในงานว่าจะเป็นประมาณไหนดี (เบลล์เลือกธีมสี Dusty Blue ฟ้าเทาๆ เป็นธีมสีที่ยากโคตร 555 เลือกมาทำไม เพราะคิดว่าต้องถ่ายรูปสวยและดูดี ส่วน Backdrop เบลล์ตามหาหลายเจ้ามากๆ จนเจอเจ้าที่ราคาไม่แพงและดูดี 2BWedding )
6. Pre-Wedding & VDO PRESENTATION จะมีมั้ย
– ลองคิดดูว่าจะถ่ายพรีเวดดิ้ง & ทำ Presentationในงานแต่งหรือไม่ (ตอนแรกเบลล์ตั้งใจว่าจะไม่มีทั้งสองอย่าง แต่เมื่อได้ไปเจอร้านชุดแต่งงานร้าน Breezezilla ร้านบริการดีมากเลยเหมาแพคเกจถ่ายพรีด้วยเลย เพราะมันคุ้มกว่ามากๆ ค่ะ แต่เรื่องวิดีโอพรีเซ้นขอตัดออกค่ะ ไม่ชอบเหมือนใคร 5555 )
7. คุยกับทีมเซลล์ให้เคลียร์
– เรื่องพิธีต่างๆ จะมีพิธีอะไรบ้าง อาหารเป็นแบบไหน, คอนเฟิมจำนวนแขก, แผนที่,ดนตรีมีให้มั้ย ,สีดอกไม้ถ้าสถานที่มีให้เป็นต้น
8. เตรียมเรื่องขันหมาก จัดการเรื่อง Backdrop หาช่างทำดอกไม้ ดูสถานที่ จ่ายเงินมัดจำเบลล์ก็ยังคงใช้ที่ 2BWedding ค่ะ มีทุกอย่างครบ พูดจาดีบริการดีมากๆ
9.เลือก อาหารกับทางสถานที่
ทางบ้านก้ามปูจะมีเมนูมาให้ ก็ช่วยกันเลือกกับญาติๆ ค่ะ
10. เตรียมของรับไหว้ ให้ผู้ใหญ่ อันนี้แล้วแต่เลยนะคะ ว่าอยากเลือกเป็นแบบไหน งานเบลล์จัดที่เรือนไทย เลยอยากทำทุกอย่างเป็นแบบไทยๆ เลยเลือกผ้าแพร เป็นของรับไหว้ให้ทางผู้ใหญ่ค่ะ
11. สั่งทำการ์ดแต่งงาน vanillaweddingcard เจอแบบการ์ดที่โดนใจจากร้านนี้ แถมบริการดี รวดเร็วมากๆ ด้วย
พิมพ์ซอง พิมพ์รายชื่อแขก แจก-ส่งซองให้แขก (ประมาณ 2-3 สัปดาห์ เดือนก่อนงานแต่ง แต่ส่วนมากเบลล์จะส่งให้ทางไลน์ก่อน เพราะเพื่อนๆ ไม่ซีเรียสมาก ให้มารับการ์ดจริงหน้างาน)
12. สั่งทำของชำร่วยงานแต่งงาน อันนี้คิดอยู่นานมาก ว่าร้านไหนดีแบบไหนดี อยากให้ออกมาในแบบสวนๆ ป่าๆ หน่อย ในที่สุดก็ได้ร้านแฮนเมด ร้าน 56decor เลยสั่งข้อมือเพื่อนเจ้าสาวและกั้นประตูร้านนี้ด้วยเลย สวยๆ ทั้งนั้น
เจ้าของร้านกันเองน่ารักมากๆ แนะนำดีมากๆค่ะ
– แหวนเพชร
– แหวนทองคำขาว
อันนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากที่จะต้องเลือกช่างที่ดีและมีความรับผิดชอบ ทั้งบริการดี วันถ่ายพรีเบลล์ให้ช่างจากร้าน Breezezilla ซึ่งแต่งหน้าสวยและเป็นกันเองมาก แต่วันจริงนั้น เบลล์ได้ไปเจอช่างที่แต่งหน้าสวยมาก ๆ แต่ไม่ค่อยดูแลและบริการ แถมจำวันผิด ทำให้มีความเครียดและดูวุ่นวายมากๆ เบลล์จองก่อนล่วงหน้าเป็นปี แต่เฟลเรื่องนี้มากจริงๆ สุดท้ายก็ผ่านไปด้วยดี ช่างมางานแต่ง ไม่ได้แบบคุยเรื่องทรงผมอะไรกันมากมายเลย แต่เนื่องจากช่างเก่งมากๆๆ ยอมรับ เลยหน้าผมออกมาสวยมากๆ แต่ถ้าเลือกได้ก็อยากได้ช่างที่คุยกับเราเยอะๆ ช่วยกันหาทรงผมกับเรา ให้เรามั่นใจว่าวันแต่งงานจะไม่ทิ้งเราแน่นอน
16. ชุดแต่งงาน
ชุดวันถ่ายพรี
ชุดไทยวันจริง
การเลือกชุดแต่งงานควรเลือกชุดแบบไหนดี
จำไว้เสมอนะคะ นี่คืองานเรา เลือกชุดที่เราใส่แล้วรู้สึกมั่นใจที่สุด รับคำแนะนำติ ชมจากคนอื่น แต่สุดท้ายตัวเรานี่แหละที่จะบอกได้ว่าชุดไหนที่คือเราและเราชอบที่สุด อีกอย่างเรื่องกาลเทศะ เป็นสิ่งสำคัญ เลือกชุดที่เหมาะสมชุดไทย ควรขับสีผิว เราเลือกสีชมพูอมทอง ส่วนชุดงานเลี้ยงนั้นเราเลือกชุดที่มีความเป็นเจ้าหญิงหน่อย ตามสไตล์ที่เราชอบ มินิมอลไม่เข้าจริงๆ 55555
17. พวกดอกไม้ตกแต่ง ทางบ้านก้ามปูจะมีให้ระดับนึงแล้ว เราก็จะหาอุปกรณ์ตกแต่งพวกโต๊ะลงทะเบียน หรือ เค้กงานแต่งถ้าอยากให้มีก็หาร้านดีๆ ที่ถูกใจ ของเบลล์หาเป็นพวกคัพเค้ก ง่ายๆ แต่อร่อยมากและราคาไม่แพงจากร้าน weekday.sweetspace
18. เพลงที่จะเปิดในงานเลี้ยง – เพลงเปิดตัวบ่าวสาวอันนี้ตั้งใจว่า จะเปิดตัวด้วยเพลง Marry me และเต้นๆ นิดหน่อย ก็ทำได้ตามหวังจริงๆ จากความร่วมมือของเพื่อนๆ เจ้าสาว เจ้าบ่าว
19. เตรียมคนนั่งต้อนรับแขกที่จุดลงทะเบียน
20.หาคนเก็บซอง รับผิดชอบซองโต๊ะลงทะเบียน เรื่องนี้สำคัญมากๆ ที่สุด ต้องกำชับให้คนดูแล ดูแลให้ดีๆ ด้วย ห้ามทิ้งไว้เด็ดขาด เพราะเกิดกรณีหายมาแล้ว (เรื่องนี้พลาดไป)
21 .หาช่างถ่ายรูปวันงาน รู้ไว้ได้เลยว่า ถ้าถ่ายเองจะเฟลมาก เก็บบรรยากาศได้ไม่ครบแน่นอน เราเลือกที่ oncevisualstudio เนื่องจากเป็นเพื่อนและรู้จักกัน แต่รูปตอนนี้ยังไม่ได้ ต้องรอดูรูปกันอีกครั้งนะจ๊ะ
Backdrop & Gallery ตกแต่งงาน
ปัญหาอะไรบ้างที่จะเจอ ??? ข้อคิดเตือนใจจากการจัดงานแต่ง
เช็คลิสต์
– ประสานงานกับสถานที่จัดงานให้ครบ- ให้เบอร์โทรทีมเพื่อนๆของเรากับคนที่ต้องมาส่งของต่างๆ- ส่งสคริปต์ให้พิธีกร & ลำดับงาน และเพื่อนบ่าว-สาว จะได้รู้คิว- นัดแนะคิวกับเพื่อนเจ้าบ่าว – เจ้าสาว ว่าใครต้องทำอะไรบ้าง
คุย – นัดเวลากับช่างแต่งหน้าทำผม ว่าให้มากี่โมง ขอแบบจริงๆจังๆ (ของเบลล์เฟลมาก ดูไม่ค่อยพร้อม)
– ใครมี Organizer ก็สบายไปค่ะ เพราะเค้าจะคอยช่วยเราทั้งหมด
– ซื้อขนม ไว้ให้บ่าวสาว เพราะจะไม่มีเวลาได้กินอะไรเลย (อันนี้เบลล์ไม่ได้กินไรเลย)
-ให้คนจัดงานเช็กความเรียบร้อย BACKDROP
– ซ้อมพูดขอบคุณแขกประธาน & ผู้ใหญ่ และแขกที่มาร่วมงาน (อันนี้เจ้าบ่าวซ้อม เบลล์ไม่ได้ซ้อมเลย 555)
– อย่าลืม ชุด – เครื่องประดับ – รองเท้า ถุงเท้าของเจ้าบ่าว เจ้าสาว (เจ้าบ่าวลืมถุงเท้าค่า หาซื้อกันใหญ่)
– เตรียมชุดไปเปลี่ยนสำหรับตอนเสร็จงาน